พิทักษ์ป่า สบอ.9 ซุ่มจับ มอดไม้กลางคืน ได้ผู้ต้องหากัมพูชาพร้อมของกลางเพียบ
วันที่ 30 กรกฎาคม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.) ที่ 9 อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ตามที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ได้รายงานสถานการณ์การลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา นั้น ตน และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามเรื่องนี้ตลอดมา โดยการสืบสวนหาข่าว และให้เฝ้าระวังพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรับทราบว่า ขบวนการลักลอบทำไม้มีสายคอยรายงานและแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ทำให้การปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่เกิดปัญหาอุปสรรค จึงได้มอบหมายภารกิจในเรื่องนี้ ต่อนายบัญชา ประเสริฐศรี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ว่า จำเป็นต้องสืบสวนหาข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่หรือคนไทยคนใดเป็นผู้คอยแจ้งข่าวหรือเบาะแสให้ขบวนการลักลอบทำไม้
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ล่าสุดนั้น หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ได้จัดชุดเฉพาะกิจเข้าสืบสวนหาข่าวแบะเข้าปฎิบัติหน้าที่เพื่อซุ่มในพื้นที่บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือพนมพรู ท้องที่ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาห้วยศาลา เวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เจ้าที่ได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ดังขึ้นห่างจากจุดดักซุ่มประมาณ 300 เมตร จึงวางแผนและจัดแบ่งทีมเจ้าโอบล้อมพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 01.45 น.ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ได้สังเกตการณ์พบมีการวางสายการเข้าออกในจุดที่แปรรูปไม้ มะค่าโมง รวมสามจุด เมื่อสายข่าวพบความเคลื่อนไหวของเจ้าที่จึงได้ส่งสัญญานให้แก่กลุ่มโดยการส่งเสียงร้อง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปในพื้นที่ทันทีและสามารถจับกุมชาวกัมพูชา ได้ 3 คน ทราบชื่อภายหลัง คือ 1.นายเซือง ซาง อายุ 24 ปี
2.นายซาน ดี อายุ 16 ปี และ 3.นายเจีย ซะเปียเรียก ทั้งสามอาศัยอยู่บ้านตวลจา ต.ทำนบได อ.ตาเปรียงปราสาท จ.อุดรมีชัย
“จากตรวจสอบที่เกิดพบเลื่อยโซ่ยนต์พร้อมบาร์เลื่อย จำนวน 2 เครื่องพร้อมอุปกรณ์อี่นๆ อีก 5 รายการ และพบไม้มะค่าโมง ถูกตัดล้มลงวัดความโตของตอ มีขนาด 500 ซม.พบไม้ที่แปรรูปแล้ว มีขนาดความยาว 2.20 ม. กว้าง 80 ซม.หนา 4 ซม. จำนวน 7 แผ่น และพบไม้ท่อนที่ยังไม่แปรรูป จำนวน 2 ท่อน รวม จำนวน 9 ท่อน/ แผ่น คิดเป็นปริมาตร 4.1086 ลบม.คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ จำนวน 161,049 บาท คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 53 มาตรา 55(5) พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 มาตรา 48 มาตรา 69 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2559) มาตรา 26/4 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2511 มาตรา 11 พ.ร.บ เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ได้จัดทำเรื่องราวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ ดำเนินคดีต่อไป”นายชัยวัฒน์ กล่าว
ผู้อำนวยการ สบอ. 9 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่า เข้ามาในพื้นที่ตามช่องอ้ายนาคเพื่อมาลำเลียงไม้ รวมจำนวน 30 คน มีเจ้าของเลื่อยโซ่ยนต์ ชื่อ นายเอ มีที่พักอาศัยในหมู่บ้านเดียวกัน นายเอและพักพวกหลบหนีการจับกุมไปได้ รวม 27 คน นายเอ รู้จักกับชายไทยยังไม่ทราบชื่อ และเป็นผู้แจ้งเบาะแส เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ และเป็นผู้ประสานงานในการเข้ามาแปรรูปไม้ในพื้นที่มาโดยตลอด ขณะนี้เจ้าที่ได้ข้อมูลบางส่วนของชายไทยดังกล่าว และจะประสานการดำเนินการเพื่อขยายผล และ การเข้ามาทำไม้ เจ้าของเลื่อยโซ่ยนต์ จะเป็นผู้รับงานจากนายทุนฝั่งกัมพูชา และหาทีมในการแบกไม้ลงไปส่งให้ในช่องทางที่นัดหมายไว้ โดยเจ้าของเลื่อยจะได้รับค่าจ้าง 200 เหรียญ พวกแบกจะได้รับค่าจ้าง ประมาณ 3,000 บาท ต่อคน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
"กลางคืน" - Google News
July 30, 2020 at 01:32PM
https://ift.tt/2D2FCf5
พิทักษ์ป่า สบอ.9 ซุ่มจับ มอดไม้กลางคืน ได้ผู้ต้องหากัมพูชาพร้อมของกลางเพียบ - มติชน
"กลางคืน" - Google News
https://ift.tt/3bMAxTB
Home To Blog
Bagikan Berita Ini
0 Response to "พิทักษ์ป่า สบอ.9 ซุ่มจับ มอดไม้กลางคืน ได้ผู้ต้องหากัมพูชาพร้อมของกลางเพียบ - มติชน"
Post a Comment